เมื่อพูดถึงรถกอล์ฟไฟฟ้า คงปฏิเสธไม่ได้ว่าหัวใจสำคัญของรถกอล์ฟไฟฟ้าก็คือ “แบตเตอรี่” แต่มีคนจำนวนไม่มากที่จะรู้ว่า แบตเตอรี่ที่อยู่ในรถกอล์ฟไฟฟ้าของเราเป็นแบบไหน เพื่อให้เข้าใจเกี่ยวกับแบตเตอรี่รถกอล์ฟกันมากขึ้น เราจะขอพาไปรู้จักกับแบตเตอรี่รถกอล์ฟ 3 ประเภท พร้อมเปรียบเทียบความแตกต่าง รวมถึงข้อดี-ข้อเสีย ให้ได้รู้กัน

แบตเตอรี่ตะกั่วกรด เป็นแบตเตอรี่สำหรับรถกอล์ฟไฟฟ้าที่นิยมใช้กันมายาวนาน เรียกได้ว่าเป็นแบตเตอรี่ชาร์จไฟได้ชนิดที่เก่าแก่ที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับบรรดาแบตเตอรี่ด้วยกัน โดยแบตเตอรี่ชนิดเติมน้ำกลั่นนี้ เป็นแบตเตอรี่ประเภทตะกั่วกรด ซึ่งมีส่วนประกอบสารละลายอิเล็กโทรไลต์เป็นของเหลว ทำให้ต้องมีการเติมน้ำกลั่น เพื่อไม่ให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็ว
แบตเตอรี่ตะกั่วกรด แบบเติมน้ำกลั่น จะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 500-600 รอบชาร์จ หรืออายุการใช้งานไม่เกิน 3 ปี ทั้งนี้ยังขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาของผู้ใช้อีกด้วย
โดยปกติแล้วการชาร์จแบตเตอรี่ตะกั่วกรด จะใช้เวลาอยู่ที่ประมาณ 8-10 ชั่วโมง ซึ่งจะใช้เวลานานกว่าแบตเตอรี่ประเภทอื่น เพราะต้องชาร์จโดยให้กระแสไฟต่ำ ไปเรื่อย ๆ และไม่ควรปล่อยให้แบตเตอรี่หมดแล้วจึงค่อยชาร์จ เพราะจะยิ่งทำให้ระยะเวลาในการชาร์จนานขึ้น ทั้งยังทำให้แบตเตอรี่มีความร้อนสะสมสูง ส่งผลให้อายุการใช้งานสั้นลงตามมาด้วย
• ข้อดี: แบตเตอรี่ตะกั่วกรด แบบเติมน้ำกลั่น จะมีราคาที่ถูกกว่าแบตเตอรี่ชนิดอื่น ๆ
• ข้อเสีย แบตเตอรี่ตะกั่วกรด แบบเติมน้ำกลั่น จะมีขนาดที่ใหญ่ น้ำหนักมาก ทั้งยังต้องมีการดูแลรักษา คอยตรวจเช็กน้ำกลั่นอยู่เสมอ และถ้าหากพบขี้เกลือที่ขั้วแบตเตอรี่ต้องคอยทำความสะอาด
• ข้อควรระวัง การใช้งานแบตเตอรี่ตะกั่วกรด แบบเติมน้ำกลั่น ควรต้องสังเกตปริมาณน้ำกลั่นอยู่เสมอ โดยให้น้ำกลั่นอยู่ในเกณฑ์ที่ปกติ ไม่ควรปล่อยให้น้ำกลั่นลดลงในระดับต่ำหรือแห้ง เนื่องจากจะทำให้น้ำกรดที่อยู่ในแบตเตอรี่กัดกร่อนแผ่นตะกั่ว เกิดการเสื่อมสภาพ และแบตเตอรี่จะมีอายุการใช้งานที่สั้นลง

แบตเตอรี่เจล MF (Maintenance Free) คือแบตเตอรี่แบบแห้ง (Dry) Electrolyte หรือมีน้ำกรดเป็นชนิดที่นำผงซิลิก้าลงไปในสารละลายในแบตเตอรี่ ทำให้สารละลายกลายเป็นเจล และจะถูกปิดสนิทแน่นอยู่ภายในแบตเตอรี่ โดยมีการทดสอบการรั่วอย่างดี นับว่าเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนามาเพื่อแก้ปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมเร็วและแบตเสื่อมไม่เท่ากันทุกลูก
แบตเตอรี่แบบเจลจะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 3-4 ปี หรือต่อการชาร์จประมาณ 1,000 รอบ
แบตเตอรี่แบบเจลจะใช้เวลาในการชาร์จนาน เนื่องจากใช้แรงดันน้อย โดยจะใช้เวลาอยู่ที่ประมาณ 6-8 ชั่วโมง ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าพลังงานแบตเตอรี่เหลือมากน้อยเพียงใด ทั้งนี้แบตเตอรี่แบบเจลควรชาร์จให้ประจุไฟเต็มอยู่เสมอ เพราะเป็นการรักษาแบตเตอรี่ และเพื่อให้พร้อมใช้งานรถไฟฟ้าได้ทุกเมื่อ
• ข้อดี: ราคาแบตเตอรี่แบบเจลจะถูกกว่าแบตเตอรี่ชนิดอื่น ๆ อีกทั้งน้ำหนักของแบตเตอรี่เจลจะมากกว่าแบตประเภทลิเทียมฟอสเฟต โดยน้ำหนักของแบตเตอรี่แต่ละก้อนจะอยู่ที่ประมาณ 40 กิโลกรัม
• ข้อเสีย: มีอายุการใช้งานสั้นกว่าแบตเตอรี่ลิเทียมฟอสเฟต
• ข้อควรระวัง แบตเตอรี่แบบเจลควรชาร์จด้วยกระแสไฟที่เหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดแก๊สในขณะชาร์จ เนื่องจากถ้ามีแก๊สเกิดขึ้น เซลล์แบตเตอรี่จะไม่สามารถดูดแก๊สที่เกิดขึ้นได้ทัน ส่งผลให้แรงดันภายในแบตเตอรี่จะสูงขึ้น ซึ่งถือเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ตัวแบตเตอรี่สูญเสียแก๊สและน้ำ จนทำให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่สั้นลงได้

แบตเตอรี่ลิเทียมฟอสเฟต (LiFePo4) หรือที่เราอาจจะรู้จักกันในชื่อ “แบตลิโพ” เป็นแบตเตอรี่ลิเทียมที่ใช้วัสดุฟอสเฟตเป็นขั้วลบของแบตเตอรี่ ทำให้มีคุณสมบัติเด่นคือ ความต้านทานภายในต่ำ จึงทำให้จ่ายกระแสไฟได้มากและไม่ทำให้เกิดปัญหาในเรื่องของความร้อน ทั้งยังมีความหนาแน่นของพลังงานสูงอีกด้วย
แบตเตอรี่ลิเทียมฟอสเฟต จะมีอายุการใช้งานได้มากถึง 10 ปี หรือต่อการชาร์จมากกว่า 3,500 รอบ
แบตเตอรี่ลิเทียมฟอสเฟต จะใช้เวลาชาร์จอยู่ที่ประมาณ 3-4 ชั่วโมงเท่านั้น ทั้งยังมีความปลอดภัยและทนต่ออุณหภูมิได้สูง
• ข้อดี: น้ำหนักของแบตเตอรี่ลิเทียมฟอสเฟต จะเบากว่าแบบเจลเป็นเท่าตัว อีกทั้งยังต้องยอมรับว่ามีประสิทธิภาพสูง จึงทำให้แบตเตอรี่ลิเทียมฟอสเฟตนิยมนำมาใช้ในรถกอล์ฟไฟฟ้า เพราะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานและปลอดภัย
• ข้อเสีย: มีราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าแบตเตอรี่รถกอล์ฟประเภทอื่น ๆ
• ข้อควรระวัง ไม่ควรใช้สายชาร์จที่ไม่ตรงกับรุ่น หรือเหมาะสมกับแบตเตอรี่ เพราะเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาด้านความปลอดภัยได้
แบตเตอรี่รถกอล์ฟไฟฟ้าจะมีอายุการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ตามประเภทของแบตเตอรี่ แต่ก็สามารถเสื่อมสภาพก่อนถึงเวลาได้ ถ้าหากขาดการดูแลรักษาที่ดี รวมไปถึงมีการใช้งานอย่างไม่เหมาะสม โดยมีปัจจัยที่ส่งผลให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ ดังต่อไปนี้
สำหรับผู้ที่ต้องการดูแลรักษาแบตเตอรี่ เพื่อช่วยยืดอายุให้แบตเตอรี่ใช้งานได้นานขึ้นอีกหลายปี ทั้งยังลดค่าใช้จ่ายและค่าซ่อมบำรุง รวมถึงลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดได้อีกด้วย สามารถทำตามเคล็ดลับดังต่อไปนี้
ทั้งหมดนี้ คงทำให้หลายคนตระหนักกันแล้วว่า แบตเตอรี่เป็นหัวใจสำคัญของรถกอล์ฟไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่ประเภทไหน ก็ต้องมีการดูแลอย่างถูกวิธี และชาร์จแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อการใช้งานที่ยาวนานและปลอดภัย
สำหรับผู้ประกอบการที่มีความต้องการเลือกซื้อแบตเตอรี่รถกอล์ฟคุณภาพ มาที่ UGO ศูนย์รถกอล์ฟไฟฟ้า ผู้จัดจำหน่ายรถกอล์ฟและขายแบตรถกอล์ฟ ราคาดี ที่ได้คุณภาพมาตรฐานสากล CE ISO9001, ISO14001, IATF16949 การันตีด้วยแบรนด์ GRANDE® (แกรนเด) ทั้งประเภท Lead Acid ที่รับประกัน 1 ปี และ Lithium Battery ที่รับประกันสูงสุดถึง 5 ปี ให้คุณสามารถเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน อุ่นใจกว่าด้วยทีมช่างผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำในการดูแลรถกอล์ฟให้อยู่ในสภาพดี พร้อมใช้งานอยู่เสมอ ตลอด 24 ชั่วโมง!
เปิดบริการวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 08.00-17.00 น. และวันเสาร์ 09.00-17.00 น. หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-385-1100 หรือ ADD LINE : @UGOCAR
Other News & Event